Honda City 2025 เปิดตัวพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ผสมผสานความหรูหราและความสปอร์ตได้อย่างลงตัว นับเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญของรถซีดานระดับกลางที่ได้รับความนิยมสูงสุดของฮอนด้า ทั้งในไทยและตลาดโลก ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ที่สะดุดตา แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านสมรรถนะ การประหยัดพลังงาน และระบบความปลอดภัยขั้นสูง
ดีไซน์ภายนอก: โฉบเฉี่ยวกว่าเดิม
Honda City 2025 ได้รับการออกแบบภายนอกใหม่ทั้งหมด เน้นความสปอร์ตที่ดูทันสมัย พร้อมการปรับปรุงรายละเอียดเล็กๆ ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยรวมอย่างชัดเจน
ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าแบบใหม่ เสริมด้วยไฟหน้า LED ดีไซน์เรียวยาว มาพร้อม Daytime Running Light (DRL) แบบ LED เช่นกัน ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและปลอดภัยยิ่งขึ้นในเวลากลางวัน กันชนหน้าถูกออกแบบให้มีเส้นสายเฉียบคม เสริมความดุดัน
ด้านข้างของรถถูกออกแบบให้มีเส้นสายต่อเนื่องและดูไหลลื่นมากขึ้น ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 16–17 นิ้ว เสริมลุคสปอร์ต ล้อสีทูโทนดูหรูหรารับกับตัวถังที่มีให้เลือกหลากหลายสี รวมถึงสีใหม่อย่าง Celestial Blue Metallic ที่สะดุดตา
ด้านหลังรถเพิ่มความสปอร์ตด้วยไฟท้าย LED แบบเส้นแนวนอนรูปตัว Z พร้อมกันชนหลังดีไซน์ใหม่ที่เน้นความกว้างและมั่นคง
ภายในห้องโดยสาร: พรีเมียม กว้างขวาง และอัจฉริยะ
เมื่อเข้าสู่ภายในของ Honda City 2025 จะพบกับห้องโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและความหรูหรา วัสดุภายในเลือกใช้แบบนุ่มพิเศษในจุดสัมผัสต่างๆ ทั้งคอนโซลกลางและแผงประตู
เบาะนั่งแบบหนังคุณภาพสูง ปรับไฟฟ้าในรุ่นบนสุด รองรับสรีระการนั่งที่ดีเยี่ยม พร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรองรับได้มากถึง 506 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการเดินทางทั้งครอบครัว
เทคโนโลยีภายในล้ำสมัยมากขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง และระบบ Honda Connect สำหรับควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชัน เช่น การติดเครื่องล่วงหน้า การล็อก/ปลดล็อกรถ และการตรวจสอบสถานะรถ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมหน้าปัดดิจิทัลขนาด 7–12 นิ้ว ที่สามารถปรับธีมการแสดงผลได้ตามต้องการ เพิ่มประสบการณ์ผู้ขับที่ล้ำสมัย
สมรรถนะและขุมพลัง: ประหยัดแต่เร้าใจ
Honda City 2025 มีตัวเลือกขุมพลังให้เลือกหลายแบบ เพื่อรองรับผู้ใช้ที่มีไลฟ์สไตล์ต่างกัน
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC i‑VTEC
ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า แรงบิด 145 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ CVT
มี Paddle Shift สำหรับรุ่นเกียร์ CVT ให้อารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ต - ระบบไฮบริด e:HEV
ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบ Atkinson Cycle ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 126 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ e‑CVT ขับเคลื่อนลื่นไหล เงียบ ประหยัดน้ำมันเฉลี่ยถึง 26–28 กม./ลิตร
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมืองและคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ระบบความปลอดภัย: Honda Sensing ครบชุด
จุดเด่นอีกประการของ Honda City 2025 คือระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่อัปเกรดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยรวมถึง:
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (CMBS)
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) และช่วยควบคุมให้อยู่ในเลน (LKAS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
- ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring)
- กล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold
ราคาและกำหนดการเปิดตัว
ในตลาดอินเดีย Honda City 2025 เปิดตัวในช่วงกลางปี โดยมีราคาตั้งแต่ ₹11.5 แสนรูปี สำหรับรุ่นเบนซิน ไปจนถึง ₹17.5 แสนรูปี สำหรับรุ่นไฮบริด ส่วนในประเทศไทย คาดว่าจะเปิดตัวปลายปี 2025 โดยราคาจะเริ่มต้นราว 650,000–900,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและออปชัน
สรุป
Honda City 2025 คือรถยนต์ซีดานที่พัฒนาทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยี สมรรถนะ และความปลอดภัย จนกลายเป็นหนึ่งในรถที่ครบเครื่องที่สุดในกลุ่ม B-Segment เหมาะกับทั้งผู้ใช้หน้าใหม่ คนเมือง และครอบครัวที่ต้องการความคุ้มค่าและความล้ำสมัยในรถคันเดียว